ชื่อวิทยาศาสตร์ : Curcuma longa L. (C. domestica Valeton) วงศ์ : ZINGIBERACEAE ชื่อสามัญ : Turmeric
ชื่ออื่น/ชื่อสามัญ :
ขมิ้น (ทั่วไป) ขมิ้นป่า ขมิ้นทอง ขมิ้นดี ขมิ้นแกง ขมิ้นหยอก ขมิ้นหัว (เชียงใหม่) ขี้หมิ้น หมิ้น (ใต้) ตายอ (กะเหรี่ยง-ก าแพงเพชร) สะยอ (กะเหรี่ยง - แม่ฮ่องสอน)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ต้น เป็นพืชล้มลุก มีเหง้าอยู่ใต้ดินลักษณะรูปไข่ มีแขนงแตกออกด้านข้างทั้งสองด้าน เนื้อในของเหง้า มีสีเหลืองส้ม มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ใบ เป็นใบเดี่ยวแทงขึ้นมาจากเหง้า เรียงเป็นวงซ้อนทับกัน ใบเป็นงูหอก ดอก เป็นช่อแทงออกจากเหง้า แทรกขึ้นมาระหว่างก้านใบรูปทรงกระบอก กลีบดอกสีเหลืองอ่อน ส่วนที่ใช้ประโยชน์: เหง้าสดและแห้ง
สรรพคุณทางยาและวิธีใช้ แก้โรคกระเพาะ แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลมในกระเพาะ โดยนำเหง้าแก่ล้างให้สะอาด (ไม่ต้องปอกเปลือก) หั่นเป็นชิ้นบางๆ ตากแดดจัดประมาณ 1 – 2 วัน แล้ว นำมาบดให้ละเอียด ผสมน้ำผึ้งปั่นเป็นลูกกลอนหรือบรรจุเป็นแคปซูล ขนาด 250 มิลลิกรัม เก็บไว้ในขวดสะอาด และปิดให้มิดชิด รับประทานครั้งละ 2 – 3 เม็ด วันละ 3 – 4 ครั้ง หลังอาหารและก่อนนอน แก้อาการท้องร่วงท้องเดิน ใช้เหง้าแก่สด ยาวประมาณ 2 นิ้ว นำมาปอกเปลือกล้างน้ำให้สะอาดแล้วตำให้ละเอียดเติมน้ำสะอาดลงไป แล้วคั้นเอาแต่น้ำรับประทานครั้งละ 2 ช้อนโต๊ะ 3 – 4 ครั้ง หลังอาหารและก่อนนอน แก้ผิวหนังเรื้อรัง นำผงขมิ้นผสมน้ำมะพร้าวทาบริเวณที่เป็นแผล หรือใช้เหง้าฝนน้ำข้นๆ ทา รักษาผิวหนังผื่นคัน แก้อาการ แพ้อักเสบจากแมลงสัตว์กัดต่อยหรือรักษาฝีใช้เหง้าสดยาว 2 นิ้ว ฝนหรือตำกับน้ำต้มสุก ทาบริเวณที่เป็น หรือ ถ้ามีเหง้าแห้ง ให้ใช้เหง้าแห้งบดเป็นผงละเอียด ผสมน้ำเกลือเล็กน้อย ทาผิวหนัง
สารเคมีและสารอาหารที่สำคัญ : น้ำมันหอมระเหยและสาร curcumin
ข้อควรระวัง - ไม่ควรซื้อผงขมิ้นตามท้องตลาด ควรทำเอง เพราะผงขมิ้นชันที่ขายในท้องตลาดส่วนมาทำมาจากขมิ้นอ้อย และกรรมวิธีในการทำมักใช้ความร้อนซึ่งจะทำให้น้ำมันหอมระเหยซึ่งมีฤทธิ์รักษาโรคระเหยไป - คนไข้บางคนอาจแพ้ขมิ้นชัน โดยมีอาการคลื่นไส้ ท้องเสีย ปวดหัว นอนไม่หลับ ให้หยุดใช้ทันที
อ้างอิงข้อมูลจาก หนังสือผักพื้นบ้านต้านโรค เล่ม 1 จัดท าโดยกลุ่มสารนิเทศฯ กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก